Blog

ค่าไฟแพงเกิดจากอะไร?

ค่าไฟแพง

ค่าไฟแพง : สาเหตุและผลกระทบ

สาเหตุของค่าไฟแพง

ค่าไฟแพง เกิดได้จากหลายปัจจัย ดังต่อไปนี้

1.พฤติกรรมการใช้ไฟที่เพิ่มขึ้น คือหน่วยการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น อาจเกิดได้จากการเปิดเครื่องปรับอากาศมากขึ้นตอนอากาศร้อนจัด หรือการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่มาเพิ่ม ซึ่งสาเหตุในส่วนนี้เราสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อช่วยประหยัดไฟฟ้าได้ เช่น เปิด-ปิดเครื่องปรับอากาศให้เป็นเวลา

2.เครื่องใช้ไฟฟ้าชำรุดหรือเสียหาย อาจจะต้องลองสังเกตจากเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่ใช้บ่อยๆ ซึ่งอาจชำรุดหรือเสียหายได้ เช่น เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น 

3.แหล่งพลังงานหลักในการผลิตราคาสูงขึ้น ปัจจุบันไฟฟ้าในประเทศไทยส่วนใหญ่ผลิตจากการใช้พลังงานฟอสซิล ถ่านหิน ซึ่งราคามีความแปรผันตามราคาตลาดโลก ทำให้เป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้ค่าไฟแพง

 

ผลกระทบจากค่าไฟแพง

1.ภาระและความกดดันด้านการเงิน ค่าไฟแพงทำให้รายจ่ายและค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้นตาม ส่งผลให้ภาระหนี้สินครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้นได้

2.ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การเพิ่มขึ้นในส่วนรายจ่ายค่าดำเนินการ ส่งผลให้กำไรลดลง รวมถึงการเพิ่มรายจ่ายครัวเรือนทั้งหมด ส่งผลให้ค่าครองชีพของทั้งระบบเศรษฐกิจสูงขึ้นตาม

วิธีแก้ปัญหาค่าไฟแพง

1.ภาครัฐช่วยผยุงราคาค่าเชื้อเพลิง ภาครัฐมีส่วนสำคัญในการช่วยแก้ปัญหาค่าไฟแพง ด้วยการตรึงราคาค่าเชื้อเพลิงที่อาจเพิ่มสูงขึ้นจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นภาวะสงครามทั่วโลก แหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติไม่เพียงพอ หรือปัจจัยอื่นๆ 

2.ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าภายในครัวเรือน เปิดปิดไฟให้เป็นเวลา ถอดปลั๊กไฟทุกครั้งที่ไม่ใช้งาน หมั่นตรวจเช็คสภาพเครื่องใช้ไฟฟ้า ล้วนมีส่วนช่วยในการลดปัญหาค่าไฟแพง

3.การใช้พลังงานสะอาดแทนพลังงานฟอลซิล นอกจากช่วยประหยัดค่าไฟ เพราะใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่ไม่มีวันหมด และมีอยู่แล้วตามธรรมชาติ ยังช่วยลดการใช้คาร์บอน อันเป็นบ่อเกิดให้โลกร้อน ซึ่งโลกร้อนก็มีส่วนให้คนต้องการใช้ไฟเพิ่มขึ้น เป็นผลกระทบกันเป็นลูกโซ่นั่นเอง

โดยอาจจะติดตั้งโซลาร์เซลล์ ใช้โคมไฟโซลาร์เซลล์ หรืออจะเป็นวิธีปลูกต้นไม้ให้ความร่มรื่นในบ้านเพิ่มขึ้น หันมาใช้จักรยานหรือรถยนต์ไฟฟ้าก็เป็นจุดเริ่มต้นของการช่วยแก้ปัญหาค่าไฟแพง และยังช่วยลดโลกร้อนได้อีกด้วย


thai carbon label

เครื่องหมายลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (ฉลากลดโลกร้อน) คืออะไร?

เครื่องหมายลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ หรือที่หลายคนเรียกว่า ฉลากลดโลกร้อน เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้ผู้บริโภครู้ว่า ผลิตภัณฑ์นั้นได้ผ่านการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และสามารถ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด พูดง่ายๆ คือ สินค้าที่มีฉลากนี้ แปลว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าสินค้าทั่วไป เพราะตลอด “วัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์” ได้มีการควบคุมหรือลดการปล่อยคาร์บอนแล้ว วัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ที่ถูกประเมิน การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ จะครอบคลุมตลอดเส้นทาง ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ได้แก่ รูปแบบการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ในการขึ้นทะเบียนฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ จะต้องมีการประเมินและเปรียบเทียบ ดังนี้ เมื่อผ่านการพิจารณาตามมาตรฐานที่กำหนดแล้ว

Read More
2568 ติดตั้งโซลาร์เซลล์ยังต้องขออนุญาตไหม

2568 ติดโซลาร์เซลล์ไม่ต้องขออนุญาตแล้วจริงหรือไม่?

หลายคนสงสัยว่า ปี 2568 เป็นต้นไป การติดตั้งโซลาร์เซลล์ต้องขออนุญาตหรือไม่? คำตอบคือ ไม่ต้องขออนุญาตแล้ว แต่มีเงื่อนไข ซึ่งถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับทั้งเจ้าของบ้านและโรงงานอุตสาหกรรมที่อยากหันมาใช้พลังงานสะอาด ลดค่าไฟ และช่วยสิ่งแวดล้อม บ้านพักอาศัย: ติดโซลาร์ง่ายขึ้น ไม่ยุ่งยาก ตั้งแต่ กลางปี 2568 เป็นต้นมา หากเป็นการติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อใช้ไฟฟ้าเองในบ้าน (ไม่ขายไฟคืนเข้าระบบ) โรงงานและภาคอุตสาหกรรม: ไม่ต้องขอใบอนุญาต รง.4 สำหรับฝั่งโรงงาน รัฐบาลได้

Read More
โรงงานสีเขียว

โรงงานสีเขียว ก้าวสำคัญสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

โรงงานสีเขียว คืออะไร (Green Factory) ? คือ โรงงานที่ดำเนินกิจการโดยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ผ่านการปรับปรุงกระบวนการผลิตและการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างมีระบบ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากร พร้อมกับการรับผิดชอบต่อสังคมตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนจึงกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของภาคอุตสาหกรรมไทย เพื่อสร้างความสมดุลระหว่าง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้ผลักดันโครงการ อุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) ที่ขับเคลื่อนด้วยหลักการ ประเทศไทยได้แสดงความมุ่งมั่นต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านการเข้าร่วมและให้สัตยาบันในปฏิญญาและความตกลงระหว่างประเทศสำคัญ ได้แก่ ทำไม โรงงานสีเขียว

Read More
PDPA Icon
Privacy Preferences

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save