Blog

รัฐบาลทั่วโลกผลักดันหารลงทุนด้านพลังงานสะอาด ท่ามกลางวิกฤตพลังงานโลก

รัฐบาลทั่วโลกผลักดันการลงทุนพลังงานสะอาด

จำนวนเงินที่รัฐบาลจัดสรรไว้สำหรับการลงทุนด้านพลังงานสะอาด (เช่น โซล่าเซลล์) เป็นจำนวนเงินเพิ่มขึ้นกว่า 1.34 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ตั้งแต่ ปี 2020

ตามการอัปเดตล่าสุดของ Government Energy Spending Tracker ของ IEA มีการประกาศการใช้จ่ายสำหรับลงทุนด้านพลังงานสะอาดในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา 130,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นช่วงที่มีการชะลอตัวมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 แต่เป็นเพียงการชะลอตัวชั่วคราว เนื่องจากมีการพิจารณานโยบายเพิ่มเติมจากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา ยุโรป และญี่ปุ่น งบประมาณการใช้จ่ายของรัฐบาลกำลังมีบทบาทสำคัญของการเติบโตอย่างรวดเร็วในการลงทุนด้านพลังงานสะอาด (เช่น โซลาร์เซลล์) และการขยายห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีพลังงานสะอาด โดยถูกกำหนดให้ขับเคลื่อนทั้งสองอย่างไปสู่จุดสูงสุดในอีกหลายปีข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นตัวช่วยสร้างแรงจูงใจให้กับบรรดาผู้ผลิตเทคโนโลยีพลังงานสะอาด ซึ่งในขณะนี้มีมูลค่ารวม 90 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ

ในขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ยังเพิ่มงบประมาณในการจัดการกับราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นทันทีสำหรับผู้บริโภค นับตั้งแต่วิกฤตพลังงานโลกที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2565 รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณไปกว่า 900 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับมาตรการระยะสั้นสำหรับผู้บริโภค นอกเหนือจากเงินสนับสนุนที่มีอยู่แล้ว มีการประกาศงบประมาณที่สามารถใช้จ่ายได้ไปแล้วกว่า 30% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา

มาตรการที่รัฐบาลออกมีบทบาทสำคัญต่อการปรับขึ้นราคาสำหรับผู้บริโภค  และวิกฤตพลังงานนี้ยังส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายในครัวเรือนของผู้บริโภค จากข้อมูลล่าสุดของ IEA เกี่ยวกับราคาพลังงานโดยผู้บริโภคใน 12 ประเทศ คิดเป็นเกือบ 60% ของประชากรโลก ครัวเรือนโดยเฉลี่ยใช้จ่ายไปกับราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นในปี 2565 แซงหน้าการเติบโตของค่าจ้างเล็กน้อย โดยเฉลี่ยแล้วครัวเรือนในประเทศที่เป็นกลุ่มเศรษฐกิจหลักมีการใช้จ่ายด้านพลังงานเพิ่ม 3%-7% ของรายได้ ทั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านที่ให้ความอุ่นหรือความเย็น และใช้สำหรับทำอาหาร ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่สูงมากหากเทียบกับรายได้  โดยครัวเรือนกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลักส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล จึงทำให้ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานคิดเป็นไม่ถึง 1 % ของรายได้

ในขณะที่ผู้บริโภคกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาจะรู้สึกว่าได้รับผลกระทบรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากค่าน้ำมันหรือค่าเชื้อเพลิงมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นมากที่สุดในค่าใช้จ่ายครัวเรือน ปี 2565 คู่กันไปกับค่าอาหาร หากปราศจากการควบคุมจากรัฐบาล สิ่งเหล่านี้ราคาจะยิ่งพุ่งขึ้นไปอีกมาก กรณีนี้เกิดขึ้นในประเทศอินโดนีเซีย โดยค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในครัวเรือนเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในปี 2565 หากไม่ได้รับการสนับสนุน

ต้นปี 2566 แสดงให้เห็นว่าราคาขายส่งด้านพลังงานปรับตัวชะลอตัวลง แต่ราคาขายปลีกไม่น่าจะลดลงอย่างรวดเร็ว ราคาพลังงานที่สูงขึ้น ทำให้เทคโนโลยีพลังงานสะอาด (โซล่าเซลล์) สามารถแข่งขันด้านต้นทุนได้มากขึ้น  โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์ไฟฟ้าและปั๊มความร้อนซึ่งมียอดขายสูงเป็นประวัติการณ์ในปี 2565 หากพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลยังราคาสูงต่อเนื่องเช่นนี้ ก็จะยิ่งเร่งการมาแทนที่ของเศรษฐกิจใหม่อันมาจากพลังงานสะอาด (พลังงานแสงอาทิตย์,พลังงานลม และอื่นๆ ) นั่นเอง

ที่มา : www.iea.org/news

thai carbon label

เครื่องหมายลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (ฉลากลดโลกร้อน) คืออะไร?

เครื่องหมายลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ หรือที่หลายคนเรียกว่า ฉลากลดโลกร้อน เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้ผู้บริโภครู้ว่า ผลิตภัณฑ์นั้นได้ผ่านการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และสามารถ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด พูดง่ายๆ คือ สินค้าที่มีฉลากนี้ แปลว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าสินค้าทั่วไป เพราะตลอด “วัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์” ได้มีการควบคุมหรือลดการปล่อยคาร์บอนแล้ว วัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ที่ถูกประเมิน การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ จะครอบคลุมตลอดเส้นทาง ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ได้แก่ รูปแบบการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ในการขึ้นทะเบียนฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ จะต้องมีการประเมินและเปรียบเทียบ ดังนี้ เมื่อผ่านการพิจารณาตามมาตรฐานที่กำหนดแล้ว

Read More
2568 ติดตั้งโซลาร์เซลล์ยังต้องขออนุญาตไหม

2568 ติดโซลาร์เซลล์ไม่ต้องขออนุญาตแล้วจริงหรือไม่?

หลายคนสงสัยว่า ปี 2568 เป็นต้นไป การติดตั้งโซลาร์เซลล์ต้องขออนุญาตหรือไม่? คำตอบคือ ไม่ต้องขออนุญาตแล้ว แต่มีเงื่อนไข ซึ่งถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับทั้งเจ้าของบ้านและโรงงานอุตสาหกรรมที่อยากหันมาใช้พลังงานสะอาด ลดค่าไฟ และช่วยสิ่งแวดล้อม บ้านพักอาศัย: ติดโซลาร์ง่ายขึ้น ไม่ยุ่งยาก ตั้งแต่ กลางปี 2568 เป็นต้นมา หากเป็นการติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อใช้ไฟฟ้าเองในบ้าน (ไม่ขายไฟคืนเข้าระบบ) โรงงานและภาคอุตสาหกรรม: ไม่ต้องขอใบอนุญาต รง.4 สำหรับฝั่งโรงงาน รัฐบาลได้

Read More
โรงงานสีเขียว

โรงงานสีเขียว ก้าวสำคัญสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

โรงงานสีเขียว คืออะไร (Green Factory) ? คือ โรงงานที่ดำเนินกิจการโดยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ผ่านการปรับปรุงกระบวนการผลิตและการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างมีระบบ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากร พร้อมกับการรับผิดชอบต่อสังคมตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนจึงกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของภาคอุตสาหกรรมไทย เพื่อสร้างความสมดุลระหว่าง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้ผลักดันโครงการ อุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) ที่ขับเคลื่อนด้วยหลักการ ประเทศไทยได้แสดงความมุ่งมั่นต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านการเข้าร่วมและให้สัตยาบันในปฏิญญาและความตกลงระหว่างประเทศสำคัญ ได้แก่ ทำไม โรงงานสีเขียว

Read More
PDPA Icon
Privacy Preferences

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save