Blog

เครื่องหมายลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (ฉลากลดโลกร้อน) คืออะไร?

เครื่องหมายลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ หรือที่หลายคนเรียกว่า ฉลากลดโลกร้อน เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้ผู้บริโภครู้ว่า ผลิตภัณฑ์นั้นได้ผ่านการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และสามารถ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด

พูดง่ายๆ คือ สินค้าที่มีฉลากนี้ แปลว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าสินค้าทั่วไป เพราะตลอด “วัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์” ได้มีการควบคุมหรือลดการปล่อยคาร์บอนแล้ว

วัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ที่ถูกประเมิน

การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ จะครอบคลุมตลอดเส้นทาง ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ได้แก่

  • การได้มาซึ่งวัตถุดิบ
  • การขนส่งวัตถุดิบ
  • กระบวนการผลิต
  • การใช้งานของผู้บริโภค
  • การจัดการซากผลิตภัณฑ์หลังใช้งาน

รูปแบบการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์

ในการขึ้นทะเบียนฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ จะต้องมีการประเมินและเปรียบเทียบ ดังนี้

  1. การประเมินในปีปัจจุบัน – คำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์ในรอบปีล่าสุด
  2. การประเมินในปีฐาน (Base Year) – เก็บข้อมูลปีอ้างอิงสำหรับใช้เปรียบเทียบ
  3. การเปรียบเทียบปีปัจจุบันกับปีฐาน – หากมีการลดลงตามเกณฑ์ จะถือว่าผ่านการประเมิน

เมื่อผ่านการพิจารณาตามมาตรฐานที่กำหนดแล้ว ผลิตภัณฑ์นั้นสามารถ ขึ้นทะเบียนและติดเครื่องหมายลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ได้ ทั้งบนบรรจุภัณฑ์ หรือใช้เผยแพร่ในสื่อต่างๆ

เช็ก! ก่อนซื้อ แค่เลือกก็ช่วยลดโลกร้อน

การลดโลกร้อนไม่ได้ไกลตัวอย่างที่คิด แค่ “เลือกซื้อสินค้าอย่างใส่ใจ” ก็ช่วยโลกได้แล้ว! หลายคนอาจไม่รู้ว่า ปัจจุบันมี ฉลากสิ่งแวดล้อม ที่ช่วยบอกเราว่าสินค้าหรือองค์กรใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากแค่ไหน ก่อนหยิบสินค้าลงตะกร้า ลองมาทำความรู้จักกับ 4 ฉลากสำคัญที่ควรเช็กก่อนซื้อ กันดีกว่า

1. ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (Carbon Footprint of Product: CFP)

ฉลากนี้จะบอกว่า สินค้าหนึ่งชิ้นปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดเท่าไหร่ ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต การขนส่ง การใช้งาน จนถึงการกำจัดทิ้ง ยิ่งตัวเลขน้อยเท่าไร แสดงว่ายิ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากเท่านั้น

image

2. คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint of Organization: CCF)

ถ้าเห็นฉลากนี้ แปลว่าองค์กรนั้นจริงจังกับการลดคาร์บอน เพราะมีการจัดการทั้งระบบ ตั้งแต่พลังงานที่ใช้ในโรงงาน ไปจนถึงการเดินทางของพนักงาน เพื่อควบคุมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยรวม

image

3. ฉลาก Carbon Neutral

บางครั้งองค์กรไม่สามารถลดคาร์บอนได้ทั้งหมด จึงใช้วิธี “ชดเชย” ส่วนที่เหลือด้วยการซื้อคาร์บอนเครดิต เพื่อทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในระดับหนึ่ง

image

4. ฉลาก Net Zero

สุดยอดของความยั่งยืน! หมายถึงองค์กรสามารถ ลดจริง และ ชดเชยส่วนที่เหลือ จนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ เรียกว่าเป็นการเดินหน้าสู่อนาคตที่เป็นมิตรกับโลกอย่างแท้จริง

image

ติดตั้งโซลาร์เซลล์ช่วยให้ได้ “ฉลากลดโลกร้อน” ไหม?

คำตอบคือ ช่วยได้อย่างมาก

เพราะหนึ่งในเกณฑ์สำคัญของการได้ฉลากลดโลกร้อน คือ “การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก” ซึ่งการใช้ พลังงานหมุนเวียน อย่างโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) ช่วยลดการพึ่งพาไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิลได้โดยตรง ทำให้องค์กรหรือโรงงานมีโอกาสผ่านเกณฑ์การประเมินง่ายขึ้น

image

ตัวอย่างเช่น:

  • โรงงานที่ติดตั้งโซลาร์รูฟ (Solar Rooftop) จะใช้พลังงานสะอาด ลดการปล่อย CO₂ ลงได้ชัดเจน
  • สินค้าที่ผลิตโดยโรงงานใช้โซลาร์ มีแนวโน้มได้รับการรับรองฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ง่ายกว่าโรงงานทั่วไป

ดังนั้น โซลาร์ไม่เพียงช่วยประหยัดค่าไฟ แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์องค์กรสีเขียว และสนับสนุนการได้ฉลากสิ่งแวดล้อม


สรุป

ฉลากลดโลกร้อนคือมาตรฐานสำคัญที่ช่วยผู้บริโภคเลือกสินค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันมีฉลากหลักๆ 4 แบบที่ควรรู้จัก ได้แก่ CFP, CCF, Carbon Neutral และ Net Zero

สำหรับองค์กรที่อยากได้ฉลากนี้ หนึ่งในวิธีที่ช่วยได้มากที่สุดคือการใช้ พลังงานสะอาดจากโซลาร์เซลล์ เพราะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้จริง ทั้งยังตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ในระยะยาว

ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ Privacy Policy และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองของคุณได้เองโดยคลิกที่ Cookie settings

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า