การปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ ค่าเอฟที (ค่า FT) ซึางพุ่งสูงถึง 90-100 สตางค์ต่อหน่วย อาจทำให้ค่าไฟฟ้าต้องปรับเพิ่มสูงถึง 4.72 บาท/หน่วย จากปัจจุบันค่าไฟอยู่ที่ 4บาท/หน่วย จะส่งผลให้ค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้น เงินเฟ้อและของแพงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนเป็นอย่างมาก
ดังนั้นเราควรมีวิธีในการรับมือกับ #ค่าไฟแพง โดยมีวิธีการง่ายๆ ดังนี้
-สำรวจและดูแลเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
ตรวจเช็คว่าเราใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรบ้าง? เพื่อทำการดูแลรักษาหรือเปลี่ยนใหม่ หากเครื่องใช้ไฟฟ้าของเราเก่าเกินไป โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ ซึ่งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากที่สุด
เครื่องปรับอากาศขนาด 12,000 BTU 1 เครื่อง กินไฟประมาณ 1,115 วัตต์ เปิดต่อเนื่องกันวันละ 10 ชั่วโมง กินไฟประมาณ 1,782.5 บาทต่อเดือน
ดังนั้นจึงควรตรวจเช็คการทำงานของเครื่องปรับอากาศ
-ควรเปิดพัดลมไล่อากาศภายในห้องก่อนเปิดเครื่องปรับอากาศ หรือเปิดแอร์และพัดลมไปพร้อมกับเพิ่มอุณหภูมิแอร์ 1-2 องศา
-ล้างแอร์ และหมั่นทำความสะอาดแอร์
ในส่วนของตู้เย็น ก็ควรจัดระเบียบ หมั่นเคลียอาหารหรือวัตถุดิบในตู้เย็นออกบ่อยๆ เพราะยิ่งของในตู้เยอะ ยิ่งบิลค่าไฟเพิ่มสูงขึ้น
รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆภายในบ้าน ก็ควรมีการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ
-ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งหลังการใช้งาน หรือปิดไฟหลังการใช้งานทุกครั้ง
-จัดสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้เหมาะสมต่อการประหยัดไฟ
เช่น ใช้ผ้าม่านกันความร้อน ทาสีบ้านเป็นสีอ่อนๆ เช่น ขาวหรือครีม
ปลูกต้นไม้ทางทิศตะวันตกหรือทิศใต้เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
-ติดตั้งโซลาร์เซลล์
Lการติดตั้งโซลาร์เซลล์ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าไปได้ 20-30 % และอาจสูงสุดถึง 40% ได้เลยทีเดียว
เหมาะสำหรับบ้านที่มีการใช้ไฟฟ้าจำนวนมากในเวลากลางวัน เช่น เปิดแอร์ทั้งวัน ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หรือทำงานแบบ work from home และยังเป็นพลังงานสะอาด
ที่มาจากพลังงานแสงอาทิตย์ 100% และยังมีส่วนช่วยลด co2 รักษาสิ่งแวดล้อมให้กับโลกอีกด้วย